Arbitrage Bot (Moderate mode) คืออะไร

“Arbitrage bot (Moderate mode)” เป็น บอทที่มีความเสี่ยงต่ำ ที่ใช้ กลยุทธ์การลงทุนแบบ Hedging โดยมีอัตราผลการตอบแทนต่อปี ที่ 5%- 50% ระว่างช่วงเวลาวันที่ 2020/9/15 – 2021/9/16 กำไรที่ได้คือ 28.35% และขาดทุนสะสมสูงสุดอยู่ที่ 1.28% ในช่วงเวลาดั่งกล่าว

ถ้าคุณมองหากลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงที่ต่ำ และให้อัตราการตอบแทนที่สูง Pionex “Arbitrage bot (Moderate Mode) คือสิ่งที่คุณกำลังมองหา

อาบริทาจ บอททำกำไรได้อย่างไร

หลังจากที่ทำการตันสินใจเลือกระหว่างความเสี่ยงและผลตอบแทน “Arbitrage bot (Moderate Mode0 เลือก ETH เหรียญเดียวในการทำ อาบริทาจ

บอทซื้อ ETH ในตลาด spot ขณะที่ขาย ETH (เปิด short) ในจำนวนที่เท่ากันในตลาด Future ด้วยวิธีนี้ ตัวบอทสามารถที่จะได้รับผลกำไร (ค่าธรรมเนียม) ที่ได้จาก การเปิด short ในขนะที่ยังรักษาพอร์ตให้เป็นกลางในตลาด

Hedging : ทำให้หลักการของคุณมีความเสี่ยงน้อย

กลยุทธ์ Hedging คือ เป็นการชดเชย ความเป็นไปได้ของการขาดทุนหรือกำไร ที่เกิดขึ้นได้ในการลงทุน โดย hedger จะทำการขายเหรียญ ในตลาด Future ก่อน เพื่อล็อคพอร์ตปัจจุบันของคุณ เพื่อหลีกเลี่ยงการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นได้เมื่อราคาเหรียญเกิดการผันผวน

บอทของ Pionex ได้เอากลยุทธ์ นี้มาใช้

สมมติว่าเรามี 10,000 USDC สำหรับ spot-futures arbitrage bot (Moderate Mode) ในขณะที่ ETH มีมูลค่า 4,000 USDC ในทั้งตลาด spot และ future

  • อย่างแรก บอท จะทำการซื้อ 2.5 ETH ในตลาด spot และขายในตลาด future และเปิดตำแหน่ง short ที่มีมูลค่า 10,000 USD
  • เพราะคุณขาย ETH สำหรับ USD เท่ากับว่าคุณถือเหรียญ 10,000 USD ในตลาด future ในกรณีนี้คุณจะมีสินทรัพย์ที่ไม่เปลี่ยนแปลงจากการที่ราคา ETH เกิดผันผวน

คิดจะปิดบอทของคุณเมื่อไหร่

  • เมื่อราคา ETH ขึ้นอย่างรุนแรงถึง 10,000 USD/ETH คุณจะได้รับ 1 ETH หลังจากที่คุณปิดตำแหน่ง Short และหลังจากที่ขายเหรียญในตลาด spot คุณจะได้รับ 10,000 USDC คืน
  • ถ้าราคาเหรียญ ETH ตกไปถึง 400 USD/ETH คุณจได้รับ 25 ETH หลังจากที่คุณปิดตำแหน่ง short และหลังจากที่คุณขายเหรียญในตลาด spot คุณก็จะยังได้รับ 10,000 USDC

เนื่องจากคุณได้เริ่มทำการลงทุนที่มูลค่า 10,000 USDC แล้วบอท arbitrage เอากำไรมาจากไหน?

ค่าธรรมเนียม (Funding fee) : กำไรของ arbitrage

การทำสัญญา Perpetual ได้ถูกเสนอจาก ตลาดซื้อขาย crypto-derivative อย่างกว้างขวาง และได้ถูกออกแบบให้เหมือนกับ สัญญาแบบเดิมของตลาด Future

ความแตกต่างที่เห็นได้ขัดเจนที่สุดระหว่าง สัญญาแบบ Traditional และสัญญาแบบ Perpetual คือ สัญญาแบบ Perpetual จะไม่มีวันหมดอายุ เนื่องจากเป็นสัญญาที่แตกต่างจากหลักการของ traditional ตัว exchange เองได้ใช้อัตราค่าธรรมเนียม (Funding rate) เพื่อให้แน่ใจว่า ราคาในตลาด Future และราคาดัชนีได้ถูกรักษาไว้ในช่วงเวลาปกติ Funding rate จะถูกคิด (ทุก ๆ 8 ชั่วโมง ที่ UTC +0 0:00, 8:00 และ 16:00) จากการเปิดในตำแหน่ง long หรือ short โดยมีพื้นฐานจากความแตกต่างระหว่างราคาของ ตลาด Perpetual contract และ spot

  • เมื่อราคาของสัญญา perpetual สูงกว่าตลาด spot อัตราค่าธรรมเนียมจะเป็น บวก ดังนั้น ผู้เปิดตำแหน่ง long จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้กับผู้ที่เปิด short
  • ในทางตรงกันข้าม เมื่อราคาของสัญญา perpetual ต่ำกว่าตลาดตลาด spot มาก อัตราค่าธรรมเนียมเป็นลบ ดังนั้น ผู้เปิด short จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้กับผู้ที่เปิด long
  • เมื่อราคาของตลาดทั้งสองมีความใกล้เคียงกันมาก ผู้ทีเปิดตำแหน่ง long จะจ่ายกำไรให้กับผู้ที่เปิด short ในอัตราที่คงที่คือ 0.03% ทุกวัน อ้ตราค่าธรรมเนียมจะเป็น 0.01% และผู้ที่เปิด long จะจ่ายให้กับผู้ที่เปิด short

อัตราค่าธรรามเนียมจะเป็น กำไรจากการทำ อาบริทาจ ที่ได้รับจากกำไรของ Pionex arbitrage อัตราค่าธรรมเนียมจะถูกส่งเข้าไปยังบัญชีทุก 8 ชั่วโมง โดยการเปิด short ในตลาด future

อ้างถึง ประวัติข้อมูลในอัตราค่าธรรมเนียมใน ETH บน การแลกเปลี่ยน โดยทั่วไปแล้ว ตำแหน่ง short จะได้รับอัตราค่าธรรมเนียมที่จ่ายโดยผู้ที่เปิด long ในช่วงเวลา 2020/9/15 – 2021/9/16 90% ของอัตราค่าธรรมเนียมเป็น บวก และขาดทุนสะสมสูงสุดที่เกิดมาจากอัตราค่าธรรมเนียมลบ อยู่ที่ 1.28% ของทั้งปี

อีกทั้งเมื่อราคาขึ้นอย่างรุนแรง อัตราค่าธรรมเนียมก็จะยิ่งสูง และกำไรต่อปีที่ได้จากการทำ อาบริทาจ สามารถที่จะขึ้นไปสูงถึง 100%+ ในหนึ่งครั้ง

มาดูตัวอย่างข้างต้น เมื่อเราลงทุน 10,000 USDC ถ้าอัตราค่าธรรมเนียมคือ 0.05% ในแต่ละครั้ง กำไรจากการทำ อาบริทาจ ก็ควรจะเป็น 15 USD ต่อวัน ดังนั้นกำไรทั้งหมดจะประมาณ 5,470 USDC ถ้าคุณลงทุนตลอดทั้งปี

ทำไมคุณจำเป็นต้องใช้ บอท ในการทำ อาบริทาจ?

  • ง่ายต่อการใช้งาน : โดยเพียงเลือก arbitrage ใส่จำนวนทุนที่ต้องการและกดไปที่ “create” เพื่อเริ่มการทำงาน
  • Auto-settlement : หลังจากที่คุณได้รับค่าธรรมเนียม บอทจะทำการทบทุนให้กับคุณโดยการเพิ่มเข้าไปใน short การกระทำดังกล่าวจะทำให้คุณได้รับการทบกำไร
  • Guaranteed : ทุนคองคุณจะถูกดูแลโดย โปรแกรม SAFU ในช่วงตลาดที่มีความผันผวนรุนแรง
  • ประสิทธิภาพสูง : Pionex เก็บค่าธรรมเนียมเพียง 0.05% ในตลาด spot ความผันผวนน้อยกว่าหลายๆ กระดานเทรด เปรียบเทียบกับการทำ อาบริทาจ ด้วยตนเอง บอท สามารถซื้อเหรียญ ใน spot และเปิดตำแหน่ง short ได้พร้อมกัน เพื่อหลีกเลี่ยงการเพิ่มความต่างของราคาที่เกิดจากช่วงเวลาที่แตกต่างระหว่างการซื้อและการขาย

จะเริ่มเปิดบอทอย่างไร?

ขั้นตอนที่ 1 : หลังจากที่ติดตั้ง Pionex App ไปที่ “Earn” – “Arbitrage” – “Create”
ขั้นตอนที่ 2 : เลือก “Arbitrage” แล้วเลือก “Moderate mode”
ขั้นตอนที่ 3 : ใส่จำนวนทุนแล้วกด “Create”

ปรับเปลี่ยนเหรียญที่จะลงทุน

“Arbitrage bot (Moderate Mode)” รองรับ USDT, USDC, และ BUSD เลือกตามภาพแล้วเลือกเหรียญที่ต้องการลงทุนในตัวอย่าง

รายละเอียดอธิบายค่า parameters

หลังจากที่สร้าง บอท จะมีค่า parameter จำนวน 9 ตัวที่แสดงในหน้าต่าง เลือก “Detail” เพื่อที่จะดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำสั่ง

  • Investment: จำนวนเงินทุนหลัก
  • Arbitrage: กำไรที่ได้รับจากอัตราค่าธรรมเนียม
  • Unrealized profit: แสดงผล ความแตกต่างของราคา ระหว่าง ตลาด future และ ตลาด spot โดยจะแสดงค่าที่เป็นมูลค่าที่ค่อนข้างคงที่ ที่จะมีความผันผวนไม่เกิน ±1% จากเงินทุนของคุณ
  • Fee : ค่าธรรมเนียมในการเปิด
  • Total profit: เป็นกำไรที่คุณจะได้เมื่อคุณปิดคำสั่ง
  • Today’s/7D/History APR: เป็นอัตรากำไรจาก อาบริทาจ ที่ 24H/ 7D/ ทั้งหมด
  • Next funding fee: เป็นอัตราค่าธรรมเนียม แบบ Real time ของสัญญา ETHUSD perpetual โดยกำไรที่แท้จริงของ อาบริทาจ จะขึ้นอยู่กับอัตราค่าธรรมเนียมที่ชำระ ซึ่งจะแตกต่างจากอัตราที่แสดงแบบ real time
  • More actions : เพิ่ม หรือ ถอน ทุนของคุณ ได้ตลอดเวลาที่คุณต้องการ

อะไรคือความเสี่ยงจากการใช้งาน arbitrage bot ?

Arbitrage bot (Moderate mode) จะใช้กลยุทธ์ อาบริทาจ ที่มีความเสี่ยงที่ต่ำมาก ความเสี่ยงเดียวที่เกิดขึ้นคือ การเปิดคำสั่ง short จะมีการบังคับขาย (Auto-deleverage) และบอทไม่สามารถที่จะขาย ETH ในตลาด spot ได้ทันเวลา

อย่างไรก็ตาม ความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุการณ์เป็นไปได้น้อยมาก อย่างแรกคือ การบังคับขาย จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อราคาของ ETH ตกอย่างรวดเร็ว และบอทที่เปิดจะมีการ leveraged ตำแหน่งการ short จึงอยู่ต่ำสุดในลิสต์ ADL

ความแตกต่างระหว่าง “Moderate mode” และ “Aggressive mode” ?

  • การรองรับเหรียญ stable coin : “Moderate mode” จะรองรับเหรียญ USDT, USDC, และ BUSD ในขณะที่ “Aggressive mode” จะรองรับเพียงแค่เหรียญ USDT
  • อัตราการใช้เงินทุน 100% : ในโหมด Moderate จะใช้ 100% ของอัตราการใช้เงินทุน ส่วนอัตราของ Aggressive mode จะขึ้นไปสูงสุดอยู่ที่ 75% (3x leverage)
  • ความเสี่ยงต่ำ : Moderate mode จะไม่มีการ leveraged และไม่มีการล้างพอร์ต (liquidation) ในขณะที่ aggressive mode มี 1 – 3 เท่าในการ leverage
  • ค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม : Moderate mode ไม่มีการ leveraged ทำให้ บอท ไม่จำเป็นต้องทำการ บังคับขาย เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิด liquidation คุณไม่จำเป็นต้องเสียค่าธรรมเนียม และไม่ต้องทนกับการสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการบังคับขายในขณะที่บอททำงาน
  • Aggressive mode มีการตั้งค่าที่หลากหลาย : ในโหมดนี้ คุณสามารถเลือก alt coin ในการทำ อาบริทาจ ในขณะที่คุณสามารถเลือกได้เพียง ETH ใน Moderate mode อีกทั้ง Aggressive mode มีการตั้งค่าที่มากกว่า รวมไปถึง ความคุมความต่างของราคา และการตั้งค่า leverage

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

คำถาม : สามารถที่จะเริ่มบอท ด้วยเงินทุนเพียง 100USD?
ตอบ : ได้ เงินทุนขั้นต่ำในการเปิดบอทคือ 100USD และคุณสามารถที่จะลงทุนได้มากถึง 250,000USD ในบอทนี้

คำถาม : จะแตกต่างกันไหมถ้าลงทุนด้วยเหรียญ USDT, USDC และ BUSD
ตอบ : อัตราการเงินคืนจะเหมือนเดิม ไม่ว่าคุณจะลงทุนด้วยเหรียญ stable coin ใดก็ตาม มีความแตกต่างเดียวที่เกิดขึ้นคือ ถ้าคุณลงทุนด้วย USDT กำไรของคุณจะได้เป็น USDT ถ้าคุณลงทุนด้วย BUSD กำไรของคุณก็จะเป็น BUSD

คำถาม : ฉันสามารปล่อยกำไรได้หรือไม่
ตอบ : ไม่ได้ เนื่องจาก กำไรที่เกิดจาก อาบริทาจ จะเป็นการทบทุน และถูกใช้ไปในการเปิด short เพื่อช่วยให้คุณได้รับอัตรากำไรผสม ให้ทำการ “Withdraw investment” ถ้าคุณต้องการเงินทุนของคุณ

คำถาม : เปิด ETH/USDT arbitrage bot ทั้ง Moderate และ Aggressive mode แล้วพบว่า “Next funding rate” แตกต่างกัน เป็นเพราะอะไร?
ตอบ : เพราะโหมดทั้งสองได้ใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างกันในการทำ อาบริทาจ ทั้งสองโหมดจะรักษาตำแหน่ง short ที่แตกต่างกัน

คำถาม : ฉันควรทำอย่างไรเมื่อพบว่า next funding rate เป็นลบ?
คำตอบ : มันจะดีกว่าถ้าปล่อยให้บอททำงานในกรณีที่ funding rate ≥-0.2% ถ้า funding rate <-0.2% และมันใกล้กับเวลาที่กำหนดในการชำระ ในกรณีนี้จะดีกว่าถ้าปิด บอท

ส่วนมาก funding rate ที่เป็นลบจะเปลี่ยนเป็นบวกเมื่อถึงช่วงชำระ อีกทั้งถ้าเราคิดถึงค่าธรรมเนียมในการเปิดและปิดคำสั่ง มันจะดีกว่าถ้ายังปล่อยให้บอททำงานเพราะจะมีเพียงค่าธรรมเนียมที่เป็นลบเพียงเล็กน้อยที่จ่ายออกไป